top of page

How to : Louis vuitton ยกเลิก Datecode เปลี่ยนมาใช้ Microchip มีวิธีเช็คยังไงบ้าง !!?

HOW TO CHECK MICROCHIP LOUIS VUITTON

สวัสดีค่าาา สาวก Louis Vuitton ทุกท่าน และผู้ที่ชื่นชอบในกระเป๋าแบรนด์เนม สินค้าแบรนด์เนมทุกท่าน อย่างที่ในบทความที่แล้วเราได้พูดถึง Date code ของหลุยส์วิตตองไป วันนี้เราก็นำข่าวการยกเลิก Date code มาเสิร์ฟเพื่อความต่อเนื่องมาอีกค่าา โดยหลุยส์วิตตองได้มีการเปลี่ยนมาใช้ไมโครชิปซึ่งเป็นชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกขนาดเล็กมาแทนการใช้ Date code นั่นเองค่ะ ซึ่งจริงๆแล้วเทคโนโลยีไมโครชิปนี้ก็มีการใช้งานมาอย่างแพร่หลาย โดยจะพบเจอได้ในสินค้าจำพวกกล้อง ลูกฟุตบอล หรือรองเท้า Nike เป็นต้นค่ะ

โดยทางหลุยส์วิตตองได้เริ่มทำการศึกษาเรื่องไมโครชิปมาตั้งแต่ปี 2019 และได้มีการเปลี่ยนมาเป็นไมโครชิปเมื่อปี 2021 ที่ผ่านมานี้ค่ะ เรามาดูกันดีกว่าว่าไมโครชิปจะบอกอะไรเรา มีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง และเราจะสามารถเช็กเจ้าตัวไมโครชิปนี้เองได้หรือไม่







ในไมโครชิปของหลุยส์วิตตองจะแสดงรายละเอียดอะไรได้บ้าง
  • บอกประเทศ โรงงาน สถานที่ที่กระเป๋าถูกผลิตขึ้น

  • คำอธิบายเฉพาะกระเป๋าใบนั้นได้ ว่าประเป๋าใบนั้นมีขนาดเท่าไหร่ และเป็นรุ่นอะไร

  • รหัสกระเป๋า (Date code)

  • วันที่กระเป๋าถูกจำหน่ายออกไป

  • รายละเอียดต่างๆของลูกค้าที่ซื้อไป

  • ข้อมูลร้านค้า เว็ปไซต์ รวมทั้งชื่อพนักงานที่เป็นคนขายกระเป๋า


 

เมื่อพี่ SA ที่ช็อปสแกนออกมา จะมีข้อมูลหลักๆอยู่ 4 ข้อ

  1. รุ่นกระเป๋า

  2. คำอธิบายของกระเป๋า

  3. ข้อมูลร้านค้า เว็ปไซต์ รวมทั้งชื่อพนักงานที่เป็นคนขายกระเป๋า

  4. Date code


ซึ่งตัวไมโครชิปนี้เราไม่สามารถสัมผัสหรือรู้ได้ว่าอยู่ส่วนไหนของกระเป๋านะคะ เพราะเป็นชิ้นส่วนที่มีขนาดเล็กและเคลือบด้วยฟิล์มที่บางมากถูกฝังไว้ในส่วนใดส่วนหนึ่งของกระเป๋า อาจจะเป็นที่หนังกระเป๋า ซับใน หรือขอบมุมค่ะ



 


ใครสามารถสแกนไมโครชิปได้บ้าง?

ต้องบอกเลยว่ามีแค่พี่ SA พนักงานขายเท่านั้นที่สแกนแล้วจะสามารถเห็นข้อมูลทั้งหมดได้ และจะสแกนได้ก็ต่อเมื่อเราต้องการคืนสินค้าเท่านั้นนะคะ !!



 


อันที่แบบว่าเดินเข้าช็อปแล้วบอกพี่SAจ๋าเช็คให้หนูหน่อย อันนี้อย่าหาทำเด้อสาววววว !!



เราสามารถสแกนไมโครชิปเองได้ไหม ?

อย่างที่เราได้ตั้งคำถามกันข้างต้นนะคะ ว่าเราจะสามารถเช็กไมโครชิป หรือสแกนไมโครชิปเองได้มั้ย คำตอบก็คือ ได้ค่ะ โดยจะมีแอปหนึ่งที่ชื่อว่า NFC Tools อันนี้จะทำให้เราได้รู้ว่ากระเป๋าใบนั้นมีไมโครชิปอยู่หรือไม่ และนอกจากนั้นยังแสดงถึง Serial Number ได้อีกด้วยค่ะ แต่เป็นแค่การสแกนคร่าวๆนะคะ จะไม่เหมือนกับเวลาที่พี่ SA สแกนกระเป๋าให้เราค่ะ และหน้าตาของแอปเป็นแบบนี้เลย




 


วิธีการใช้งาน NFC TOOLS

วิธีใช้งาน NFC Tools นั้นง่ายมากค่ะทุกคน แค่กดเข้าแอป แล้วจิ้มไปที่ Read จากนั้นตัวแอปก็จะขึ้นหน้ารอสแกนมาให้เราค่ะ พอขึ้นหน้านี้มาแล้วสิ่งที่เราต้องทำคือเอานำโทรศัพท์ไปสแกนรอบๆตัวกระเป๋าช้าๆจนกว่าจะเจอเจ้าไมโครชิปค่ะ

เจอแล้ววววว ถ้าขึ้นเครื่องหมาย ✅ ขึ้นมาแบบนี้ก็แปลว่าเราเจอไมโครชิปแล้วนะคะ ส่วนรูปทางด้านขวาคือข้อมูลคร่าวๆที่แอปสามารถอ่านได้ค่ะ ซึ่งนั่นก็แปลว่ากระเป๋าใบนี้เป็นของแท้นั่นเองค่า


 


ข้อดีของไมโครชิป
  1. ยากต่อการปลอมแปลง

  2. เราสามารถยืนยันตัวตนของผู้ซื้อได้ ง่ายต่อการติดตาม

  3. สะดวกต่อเจ้าหน้าที่ในช็อปเพื่อการยืนยันคุณภาพสินค้าว่าแท้หรือปลอม

  4. ลดเวลาตรวจสอบเมื่อคืนสินค้า

  5. ลดโอกาสในการทุจริตของพนักงาน ( เคยมีกรณีศึกษาที่พนักงานสับเปลี่ยนกระเป๋าปลอมมาขายอยู่ค่ะ สามารถกดฟังในคลิปได้เลยนะคะ ! )



 

ข้อเสียของไมโครชิป
  1. ไม่สามารถเช็คได้เอง หรือเช็คได้เองคร่าวๆ ไม่สามารถเห็นข้อมูลได้ทั้งหมดแบบที่พี่ SA เห็น

  2. ตลาดขายของมือสองค่อนข้างขายยาก



ข้อดีของการทำไมโครชิปนั้นก็เสมือนเป็นการทำเพื่อความสะดวกและป้องกันการปลอมแปลงสินค้าได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ ส่วนข้อเสียก็อย่างที่เราทราบกันว่าตลาดซื้อขายกระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง และการฝากขายกระเป๋าแบรนด์เนมในช่องทางออนไลน์ค่อนข้างที่จะดูสินค้ายากเพราะไม่ได้มี Date code เทียบให้อ่านและตรวจกันแบบเมื่อก่อน ซึ่งสำหรับใครที่อยากขายต่อต้องมีใบเสร็จจึงจะน่าเชื่อถือและซื้อขายได้ง่ายขึ้นค่ะ


แต่ปัญหาและความกังวลเหล่านี้จะหมดไป หากท่านซื้อ-ขายสินค้าแบรนด์เนมกับ Cafebrandname เราขายกระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง รับซื้อกระเป๋าแบรนด์ ฝากขายกระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง บอกเลยว่าหายห่วง หมดกังวลได้เลย เพราะเราขายสินค้าแบรนด์เนมมือสองของแท้ มีผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบแท้-ปลอมทุกใบ !


























Comments


bottom of page