เวลาที่เราซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมสวยๆสักใบ แต่ก็ยังคงมีเป็นห่วงเรื่องการดูแลรักษา หรืออายุการใช้งานของกระเป๋าใช่ไหมคะ เพราะกระเป๋าแบรนด์เนมก็นับได้ว่าเป็นสินทรัพย์การลงทุน และได้ผลตอบแทนอันคุ้มค่า ด้วยราคากระเป๋าที่สูงและเพิ่มขึ้นในทุกๆปี ด้วยวัสดุคุณภาพดีแต่แน่นอนต้องมีการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี เพราะหากกระเป๋าที่เรารักนั้นเกิดเป็นรอยและเป็นคราบสกปรกขึ้นก็อาจทำให้ราคาของกระเป๋าตกลงได้
ใครที่เป็นคนรักกระเป๋าต้องรีบมาตำ เพราะ Cafebrandname จะพาทุกคนมาดูวิธีดูแลรักษากระเป๋าใบโปรดให้คงอยู่ไปสวยๆ และยืดอายุการใช้งานให้นานมากขึ้น
คราบสกปรกนั้นเป็นคราบประเภทไหน
คราบน้ำ คราบเหงื่อ
คราบเหล่านี้มักเกิดน้ำฝน หรือการใช้งานมาเป็นเวลานานเป็นคราบสะสม หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ทำความสะอาด คราบเหงื่อนั้นจะกลายเป็นเกลือมากัดหูกระเป๋า หรือหากเป็นคราบน้ำที่ทิ้งไว้นานๆก็ทำให้กระเป๋ามีรอยด่างได้
คราบฝุ่น รอยดำ
เป็นคราบรอยดำตามขอบกระเป๋า เมื่อเกิดคราบนี้ขึ้นต้องเช็ดทำความสะอาดทันที หากปล่อยไว้คราบจะกัดกินเนื้อกระเป๋าทำให้เกิดรอยด่างได้
คราบปากกาในกระเป๋า
หมึกปากกานั้นมีเคมีอยู่ หากทำความสะอาดแบบที่ไม่ถนอมเนื้อกระเป๋าก็จะทำให้กระเป๋าเป็นรอยด่าง หากกระเป๋าเป็นสีพิเศษก็ยิ่งต้องมีการทำสีเพิ่มตามมาด้วย
รอยขีดข่วนตามกระเป๋า
อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น เครื่องประดับไปโดน เดินชนโน่นชนนี่ ซึ่งหากเป็นรอยที่ไม่มีการบาดลึกไปถึงเนื้อหรือหนังกระเป๋าก็สามารถลบออกได้
คราบอาหาร
นำชอล์คสีขาวที่บดเป็นผงแล้วทิ้งไว้บนรอยเปื้อน และเช็ดออกด้วยผ้าสะอาด
ตรวจสอบหนังกระเป๋าก่อนทำความสะอาด !
เพราะหนังแต่ละชนิดนั้นผลิตจากวัสดุที่แตกต่างกัน มีการดูแลและคุณสมบัติที่ไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นเราจึงควรที่ตรวจสอบชนิดของหนังกระเป๋าก่อนค่ะ
วิธีดูแลกระเป๋าหนังแกะ
หนังแกะนั้นมีเอกลักษณ์ในเรื่องของความนิ่ม เงางาม แต่ก็บอบบางมาก หากพบคราบสกปรกตามหนัง ควรนำผ้าชุบน้ำหมาดๆ มาเช็ดตามรอยคราบ และเช็ดน้ำออกด้วยผ้าแห้ง ถ้ากระเป๋ามีความชื้นก็ควรที่จะผึ่งลมให้แห้งก่อนนำไปเก็บ มิเช่นนั้นอาจทำให้หนังเสื่อมสภาพ เป็นเชื้อราได้ เมื่อทำความสะอาดเสร็จให้ทาน้ำยาเคลือบหนังและเช็ดออกให้เรียบร้อยก่อนเก็บ ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีซิลิโคนหรือแว๊กซ์เพราะจะทำให้อุดตันรูขุมขน
วิธีดูแลกระเป๋าหนังวัว
ต้องดูให้แน่ใจก่อนว่าไม่มีเศษฝุ่นติดอยู่ เพราะฝุ่นติดอยู่ที่กระเป๋าแล้วเช็ดไปนั้นอาจทำให้กระเป๋าเป็นรอยเล็กๆได้ เมื่อไม่มีเศษฝุ่นติดอยู่ก็สามารถนำผ้าหมาดๆชุบน้ำ หรือผ้าไมโครไฟเบอร์นุ่มๆ มาเช็ดคราบออกและรีบใช้ผ้าแห้งเช็ดให้แห้งที่สุด ที่สำคัญก็คือต้องรีบทำความสะอาดทันทีหลังพบคราบ และควรให้ความชุ่มชื้นกับหนังโดยการทาน้ำยาสำหรับหนังเพื่อให้ความชุ่มชื้น
วิธีดูแลกระเป๋าหนังสังเคราะห์
เป็นหนังที่มีสามารถดูแลและทำความสะอาดได้ง่าย แต่ก็ไม่ควรให้ถูกน้ำ หากพบคราบสกปรกก็สามารถนำผ้าหมาดมาเช็ดคราบออกแล้วนำไปตากแดดอ่อนๆให้กระเป๋าแห้งได้ (ย้ำว่าแดดอ่อน และไม่ควรตากเป็นเวลานาน) และไม่ควรใช้น้ำยาเคลือบหนังหรือน้ำยาทำความสะอาดหนังแท้กับหนังเทียม
วิธีดูแลกระเป๋าหนังแก้ว
กระเป๋าที่มีความเงา สีสันสวยงาม ดูโดดเด่น แต่ดูดสีเป็นรอยได้ง่าย หากพบรอยสกปรกต้องใช้น้ำเปล่าเช็ดทำความสะอาดทันที หากน้ำเปล่าเช็ดไม่ออกให้ใช้น้ำยาเช็ดกระจก หรือผ้าฝ้ายชุบน้ำผสมน้ำส้มสายชูเจือจางเช็ดเบาๆแล้วใช้ผ้าแห้งเช็ดทำความสะอาดซ้ำอีกครั้ง เมื่อเช็ดเสร็จเรียบร้อยแล้วเช็ดให้แห้งสนิทเพื่อป้องกันคราบน้ำ และใส่ถุงผ้าที่มีสารเก็บความชื้น และเก็บเข้าตู้ให้ดี
วิธีดูแลกระเป๋าหนังกลับ
เป็นหนังที่ดูแลรักษาค่อนข้างยาก เพราะเป็นหนังที่สามารถดูดน้ำและดูดสีได้ดี ฉะนั้นควรที่จะต้องระวังคราบน้ำและรอยด่างให้ดี โดยใช้น้ำยาเช็ดหนังกลับทำความสะอาด หรือใช้สเปรย์สำหรับเคลือบหนังกลับเพื่อป้องกันรอยดำรอยด่าง จากนั้นใช้ผ้าแห้งเช็ดให้แห้งสนิทเพื่อป้องกันคราบสกปรกฝังแน่น และหลีกเลี่ยงการกระทบโดยตรงของแสงแดด
วิธีดูแลหนังจระเข้
หนังจระเข้เป็นหนังที่มีคุณสมบัติพิเศษคือความมันวาว โดยมีวิธีการรักษาคือการใช้ผ้านิ่ม (ไม่เป็นขุย) เช็ดอย่างเบามือ ใช้ควบคู่กับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหนัง หรือใช้สเปรย์กันน้ำฉีดใส่หนังเพื่อป้องกันน้ำหรือของเหลวที่อาจทำให้หนังบวมได้
วิธีดูแลหนังงู
กระเป๋าหนังงู ไม่ ควร ใช้ ผลิตภัณฑ์ ใดๆ ที่ กระเป๋า !! งงมั้ยคะ ทำไมถึงใช้ไม่ได้ นั่นเป็นเพราะว่าหนังงูเป็นหนังที่กรอบง่าย ซีดเร็ว มีความเปราะบางมาก เมื่อใช้ไปนานๆ หนังงูก็อาจจะหลุดออกมาหรือตัวหนังจะเปิดออกจากกระเป๋าได้ แต่ก็มีวิธีการดูแลรักษาคือ นำกระเป๋าไปเคลือบแลกเกอร์ใหม่เพื่อคงความแข็งแรง แต่หนังงูนั้นก็อาจจะมีการเปลี่ยนสภาพไปเล็กน้อย
วิธีดูแลกระเป๋าผ้า
วัสดุที่หลายๆคนคิดว่าดูแลรักษาง่าย แค่ซักก็จบ แต่เนื่องจากเป็นวัสดุที่ของเหลวซึมได้ไว ถ้าเปื้อนสิ่งสกปรกก็อาจจะซักไม่ออกหรือเป็นขุยได้อีก การทำความสะอาดด้วยการซักอาจจะทำให้เสียทรง เมื่อใช้เสร็จทุกครั้งจึงควรมีลูกกลิ้งแบบกาวที่เอาไว้ถูเพื่อทำความสะอาด จะช่วยรักษากระเป๋าผ้าให้อยู่ไปนานๆ ได้ และควรเก็บใส่ถุงกันฝุ่นอีกชั้น และถ้าหากเปื้อนสิ่งสกปรกควรรีบนำส่งร้านซักกระเป๋าโดยตรง
วิธีดูแลกระเป๋าหนังพลาสติก
อย่าให้กระเป๋าโดนความร้อนและอย่าวางของอื่นทับบนกระเป๋า เพราะนอกจากกระเป๋าจะเสียทรงแล้วสีจากของสิ่งอื่นอาจหลุดติดใส่กระเป๋าได้ ควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดเป็นเวลานานเนื่องจากสีหรือรูปทรงของกระเป๋าอาจเปลี่ยนได้ ข้อดีของกระเป๋าพลาสติกคือสามารถทำความสะอาดคราบออกได้ง่าย
ข้อควรระวังในการดูแลกระเป๋า
การปกป้องด้านในของกระเป๋าเป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกันค่ะ โดยแนะนำให้ใช้ถุงพลาสติกหรือกระเป๋าเครื่องสำอางที่เป็นพลาสติก ไม่มีช่อง เพื่อเก็บสิ่งของที่อาจทำให้ด้านในกระเป๋ามีรอยเปื้อนได้ เช่น เครื่องสำอาง ปากกา เจลทำความสะอาดมือ
การวางกระเป๋าบนพื้นผิวที่ไม่ดี เช่น พื้นคอนกรีตขรุขระ พื้นปูน อาจเป็นการทำลายบริเวณมุมของฐานกระเป๋าได้ ควรสะพายหรือถือเอาไว้ในมือตลอดเวลา หรือหากต้องวางลงขณะนั่ง แนะนำให้วางไว้บนขา เพื่อไม่เป็นการทำลายมุมกระเป๋าให้เสียรูปไป เพราะหนังของกระเป๋าบางประเภทนั้นไวต่อรอยขีดข่วน อาจจะหลุดลอกได้ง่าย
ไม่ควรทำความสะอาดหนังด้วยทิชชู่เปียก น้ำส้มสายชู หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดทั่วไป ที่ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์สำหรับทำความสะอาดกระเป๋าโดยเฉพาะ เพราะบางผลิตภัณฑ์อาจมีสารเคมีที่สามารถไปทำปฏิกิริยากับวัสดุบนกระเป๋าได้
ควรใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เหมาะสมกับวัสดุของกระเป๋า
ระวังการใช้ครีมทามือ หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไขมันอื่น เพราะคราบไขมันจะทำปฏิกริยากับวัสดุหนัง ก่อให้เกิดความเสียหายกับหนังได้
หลีกเลี่ยงการนำกระเป๋าไปถูกกับแสงแดดโดยตรง เพราะอาจทำให้หนังสีซีด
ไม่ควรสวมเสื้อผ้าสีเข้มเมื่อต้องใช้กระเป๋าที่มีสีอ่อน เพราะอาจทำให้กระเป๋าเกิดการดูดสีจากเสื้อผ้าได้
ไม่ควรเก็บกระเป๋าไว้ในรถยนต์ เพราะอากาศที่อบอ้าว ร้อนชื้นจากอุณหภูมิที่สูง จะทำปฏิกิริยากับกระเป๋า ทำให้หนังมีการเฟดสี และหนังเกิดความแข็งกระด้าง
ลองใช้น้ำยาทำความสะอาดกระเป๋าที่ซื้อมากับรอยเปื้อนในที่อื่นก่อน เพื่อดูประสิทธิภาพของน้ำยาว่ารุนแรงเกินไปจนทำลายหนังกระเป๋าหรือไม่
หากรอยเปื้อนถูกทิ้งไว้นานแล้ว หรือเลอะเทอะเกินที่จะสามารถทำความสะอาดเองได้ ควรนำกระเป๋าไปเข้าร้านสปากระเป๋าเลยดีกว่าค่า
ระวังอย่าให้มือเลอะตอนถือกระเป๋า
ระวังของมีคมทุกชนิด
อย่าให้หนังเปียกน้ำนานๆ
การดูแลอะไหล่และส่วนต่างๆ
ซิปกระเป๋า
1. รูดซิปเปิดออกจนสุด ดูแนวซิปให้ตรง ใช้ผ้าเช็ดสิ่งสกปรกให้สะอาด 1 รอบ
2. ใช้ขี้ผึ้งหรือครีมขัดหนัง หรือครีมอเนกประสงค์ค เช่นสเตย์คลีน ถูตามแนวขอบซิป
3. อย่าให้ตัวขี้ผึ้งหรือครีมขัดหนังไปโดนตัวกระเป๋า หากเผลอไปโดนให้รีบเช็ดออกด้วยผ้า หมาดๆให้เบามือที่สุด และใช้ผ้าแห้งเช็ดไปที่หนังซ้ำอีกครั้ง
หูกระเป๋าและสายสะพาย
1. ใช้ผ้าพันคอสีสวยมาพันหูกระเป๋าเพื่อลดการเสียดสีระหว่างใช้งานและเพื่อป้องกันคราบเหงื่อ คราบสกปรก หรือคราบเครื่องสำอางของสาวๆมาติดหูกระเป๋า ทำให้สายกระเป๋ามีสีซีด
2. ไม่ใส่ของหนักเกินไปจนทำให้กระเป๋าต้องแบกภาระหนัก เพราะเมื่อกระเป๋ารับน้ำหนักมากก็อาจทำให้หูกระเป๋าเกิดรอยแตกหรือขาดได้
ก้นกระเป๋า
1. ตรวจสอบพื้นที่ที่จะวางกระเป๋าทุกครั้งว่ามีน้ำหรือคราบสกปรกอยู่หรือไม่
2. ดูปุ่มเล็กๆตามมุมกระเป๋าว่าช่วยรองรับน้ำหนักหรือไม่
3. คอยเช็ดสิ่งสกปรกที่ก้นกระเป๋าออกอย่างเบามือ เพื่อไม่ให้ตัวกระเป๋าเสื่อมสภาพเร็ว
ภายในของกระเป๋า
กลับด้านในของกระเป๋าออกมาแล้วใช้ลูกกลิ้ง หรือกระดาษกาวถูอย่างเบามือ หรือใช้เครื่องดูดฝุ่นขนาดเล็กดูดทำความสะอาด
อะไหล่ หมุดล็อคมีสีคล้ำ ถ้าเป็นทองเหลืองให้ใช้น้ำยาขัดทองเหลืองทำความสะอาด บางรุ่นอาจเป็นสแตนเลสชุบเงินหลายชั้น ก็ให้ใช้คัตตอนบัตชุบน้ำยา เช็ดทำความสะอาด
รักษาทรงกระเป๋าอยู่เสมอ
เมื่อทำความสะอาดอย่างถูกต้องแล้ว วิธีเก็บรักษากระเป๋าแบรนด์เนมในขณะที่ไม่ได้ใช้งานก็เป็นเรื่องที่สำคัญ หากวางกระเป๋าเอาไว้เฉยๆก็อาจทำให้กระเป๋าเสียทรง เสียรูปได้ ดังนั้นให้หาวัสดุดันทรง เช่น กระดาษ ฟองน้ำ หรือเศษผ้านิ่มๆมายัดใส่ในกระเป๋า เพื่อรักษารูปทรงกระเป๋าเอาไว้เมื่อไม่ได้ใช้ เพื่อช่วยลดรอยยับ รอยพับต่างๆ ที่อาจทำให้หนังเสียรูป ลดปัญหากระเป๋าแฟบ ไม่คืนรูป หรือใช้ Organizer ที่นอกจากจะช่วยรักษาทรงให้กระเป๋าแล้ว ยังเป็นตัวช่วยที่จะทำให้เราจัดเก็บสิ่งของได้อย่างเป็นระเบียบอีกด้วย
เมื่อไม่ได้ใช้ ต้องทำยังไง?
หลังจากทำความสะอาดกระเป๋าเสร็จแล้ว การเก็บรักษากระเป๋านั้นก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกันค่ะ โดยการวางกระเป๋าไว้ด้านนอกสักระยะหนึ่งหลังจากทำความสะอาดเสร็จเพื่อให้กระเป๋าระบายความชื้น และการเก็บที่ดีก็คือ การเก็บกระเป๋าใส่ในกล่อง ถุงกระเป๋าที่ทางแบรนด์แถมมา หรือหากถุงแบรนด์หาย ก็สามารถใช้ปลอกหมอนคอตตอนในการเก็บกระเป๋าได้เช่นกัน ควรเปิดช่องไว้เล็กน้อยเพื่อให้มีอากาศถ่ายเท และวางกระเป๋าแต่ละใบบนชั้นไว้เป็นใบๆ ที่สำคัญคือต้องวางให้มีระยะห่างจากกระเป๋าหรือวัตถุอื่นๆเพื่อไม่ให้ดูดสีหรือสีตกใส่กัน และยังต้องใส่ซองกันชื้นในกระเป๋าก่อนจัดเก็บ โดยใช้การวาง แทนการแขวนกระเป๋า เพราะการแขวนไว้นั้นอาจทำให้ตัวกระเป๋าเสียทรง และหากมีสายสะพาย ควรม้วนสายสะพายเก็บไว้ในกระเป๋า
สำคัญเหนืออื่นใดคือต้องเก็บกระเป๋าไว้ในที่ที่อากาศถ่ายเทได้สะดวกเพื่อป้องกันการเกิดเชื้อรา ไม่ถูกแสงแดดโดยตรง เพราะอุณหภูมิที่สูงเกินไปอาจทำให้กระเป๋าเกิดความเสียหายได้ โดยอุณหภูมิที่ดีควรอยู่ดี 23 - 27 องศา และถ้าเป็นไปได้ควรติดตั้งตัวดูดความชื้นภายในห้อง เพราะเมื่อกระเป๋าอยู่ในห้องเย็น และนำออกมาด้านนอกเจอความร้อน จะกลายเป็นความชื้น และอาจเกิดเชื้อราได้ รวมถุงใส่ถุงกันชื้นไว้ด้านในกระเป๋าด้วย
ควรจัดระเบียบกระเป๋าหลังใช้งานทุกครั้ง
หลังจากกลับถึงบ้านในแต่ละวันควรจะตรวจเช็ค และจัดระเบียบภายในกระเป๋า จะเป็นประโยชน์ช่วยให้ไม่ลืมของสำคัญก่อนออกจากบ้าน และยังได้จัดการขยะ หรือสิ่งของที่อาจจะสุ่มเสี่ยงสร้างความเสียหายให้กับกระเป๋า อย่างเช่นปากกาที่ลืมปิดฝา ใบเสร็จที่อาจทิ้งรอยหมึกติดอยู่บนหนังกระเป๋า หรือลูกอมและหมากฝรั่งที่ละลายและสร้างรอบเหนียวทิ้งไว้ได้
วิธีกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์จากกระเป๋า
ทุกท่านสามารถกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกจากกระเป๋าได้ด้วยการใช้ผงฟู โดยการเปิดฝาบรรจุภัณฑ์ของผงฟูออก แล้วนำไปวางในกระเป๋า (ระวังอย่าให้หก !!) จากนั้นใช้ถุงผ้ากันฝุ่นหรือปลอกหมอนคลุมกระเป๋า ทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง ผงฟูจะช่วยดูดกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกจากกระเป๋าได้เป็นอย่างดีค่ะ
การดูแลกระเป๋าแบรนด์เนมของเรานั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมากนะคะ เพราะนอกจากเราจะนำมาใช้เองสวยๆ ไม่ดูเก่าดูโทรมแล้ว เวลาที่เราเบื่ออยากจะนำไปซื้อขายกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองแล้วก็จะได้ราคาที่ดี เพราะน้องจะได้สภาพดี มีความสะอาด ซื้อง่ายขายคล่องนั่นเองค่ะ รวมไปถึงการที่เรานำไปขายกับร้านรับซื้อกระเป๋าแบรนด์ ร้านฝากขายกระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง หรือร้านรับซื้อBrandname สภาพและความสะอาดเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะทำให้เราได้ราคาที่ดีด้วยค่ะ
Comments