top of page

Review : กระเป๋า Lady Dior ใบโปรดของ Lady Diana (Diana,Princess of Wales) และที่มาของการตั้งชื่อ


เจาะลึกประวัติกระเป๋าในตำนาน Lady Dior เป็นหนึ่งในกระเป๋าถือของผู้หญิงที่ทรงอิทธิพลที่สุด คลาสสิกเหนือกาลเวลาที่เป็นที่นิยมไปทั่วโลก ทั้งยังมีคุณค่าความงามที่ควบคู่กับประวัติความเป็นมา สร้างความแตกต่าง และต้องจารึกในอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์วงการแฟชั่น ที่ใครหลายๆคนรู้จักในฐานะ Iconic bag จากแบรนด์ Dior ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากจนไม่น่าเชื่อเลยว่า


กระเป๋ารุ่นนี้มีอายุปาเข้าไปกว่า 20 ปีแล้ว !!


กระเป๋ามีความโดดเด่นแบบ Luxury สไตล์คุณหนูหวานๆและสง่างามในตัว ผลิตด้วยหนังแกะลาเต้และการเย็บแบบ Cannage Motif ซิกเนเจอร์ของทางแบรนด์ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นซิลลูเอทที่เป็นเอกลักษณ์บนหนังกระเป๋าที่ได้แรงบันดาลใจมาจากลายของเก้าอี้ Napoleon III ที่คริสเตียน ดิออร์ ใช้เป็นเก้าอี้ให้แขกในงานแฟชั่นโชว์ครั้งแรกของแบรนด์ แต่ที่มาของชื่อ และความน่าสนใจของกระเป๋าใบนี้มันคืออะไรล่ะ




 


เรื่องราวชีวิตของไดอาน่า เจ้าหญิงแห่งเวลส์

คือประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งที่ถูกเล่าซ้ำไม่รู้จบ


ปี 1981


เจ้าหญิงไดอาน่าแห่งเวลส์ มีพระนามเดิมว่า ไดอานา สเปนเซอร์ ไดอานาถือกำเนิดในตระกูลขุนนางที่สืบทอดเชื้อสายจากราชวงศ์อังกฤษในสมัยกลาง เป็นบุตรีคนที่ 3 ของพระชนกจอห์น สเปนเซอร์ ไวเคานต์อัลธอร์พ และพระชนนีฟรานเซส โรช เป็นพระชายาองค์แรกของสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร และได้รับการสถาปนาเป็นเจ้าหญิงแห่งเวลส์ เมื่อวันที่ 29 กรกฏาคม ค.ศ.1981


ในสมัยปี 1981 - 1997 เจ้าหญิงไดอานาแห่งเวลส์ ยึดพื้นที่คอลัมน์ ในสื่อสิ่งพิมพ์ ทุกสำนัก ทุกฉบับในสมัยที่ยังไม่มีอินเตอร์เน็ต เปิดหนังสือพิมพ์ก็เจอ ทั้งเปิดนิตยสารก็เจอ จนเรียกได้ว่าเป็นผู้ทรงอิทธิพลในสมัยนั้นเลยทีเดียว ไม่ว่าจะหยิบจับหรือสวมใส่สิ่งใดก็มักเป็นที่จับตามองอยู่เสมอ จนเรียกว่าเป็นผู้นำเทรนด์แฟชั่นก็ว่าได้ เพราะหลังจากที่เธอเข้าเป็นสมาชิกราชวงศ์ก็ได้รับเสียงชื่นชมเป็นอย่างมาก พระองค์แต่งตัวดี วาจาไพเราะ รักเด็ก โอบอุ้มคนแปลกหน้า มุ่งทำงานการกุศล ทำให้ราชวงศ์อังกฤษเป็นที่ต้อนรับจากนานาชาติมากขึ้นทุกวัน



โครงการต่างๆที่ทำให้เจ้าหญิงไดอานามีชื่อเสียงและเป็นที่รักจากผู้คน สะท้อนถึงตัวตนที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตา ความรัก ความเป็นมนุษย์ จนเรียกได้ว่าเป็นสตรีผู้อุทิศตนเพื่อแก้ไขปัญหาสังคมมากที่สุดคนหนึ่งของโลก ไม่ว่าจะวิกฤติโรคเอดส์ และหยุดไฟสงคราม สิ่งที่เจ้าหญิงไดอานาได้ริเริ่มไว้นั้นได้เปลี่ยนแปลงโลกไปตลอดกาล และยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนทั่วโลก จนได้รับสมญานามว่า​ " เจ้าหญิงแห่งปวงชน "

ในปี 1982 ไดอาน่าออกเดินทางเยี่ยมผู้ป่วยตามสถานพยาบาลต่างๆ ให้ความสำคัญในการทำให้เกิดความเข้าใจใหม่กับผู้ป่วยที่ถูกตีตราจากสังคมโลกว่าน่ารังเกียจ ไดอาน่าเข้าไปจับมือ กอด คลุกคลีกับผู้ป่วย โดยไม่มีท่าทีรังเกียจใดๆแม้แต่น้อย ภาพถ่ายเมื่อครั้งที่เธอเดินทางไปเยี่ยมผู้ป่วย HIV ที่โรงพยาบาล Central Middelsex และได้นั่งพูดคุยอย่างถึงเนื้อถึงตัวกับผู้ป่วย ถูกแพร่ไปทั่วโลก ซึ่งครั้งนั้นเองที่นับเป็นการยืนยันได้อย่างชัดเจนและเป็นที่ประจักษ์ว่า ไดอาน่าคือนางฟ้าเดินดินตัวจริง


เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่ทำให้ทั่วโลกเริ่มเปลี่ยนกระแสความคิดด้านลบที่มีต่อผู้ป่วย HIV ในยุคนั้นอีกครั้งหนึ่ง เพียงไม่กี่เดือนก่อนที่ไดอาน่าจะเสียชีวิต เธอยังได้ทำในสิ่งที่หลายคนไม่กล้าทำ นั่นคือการเดินทางเยือนประเทศแอฟริกาใต้ เพื่อต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ที่มีสถานการณ์รุนแรงอยู่ในขณะนั้น อีกทั้งยังยื่นมือเข้าช่วยเหลือเด็ก และเยาวชนที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดดังกล่าวด้วยตัวเธอเองอีกด้วย จึงไม่น่าแปลกใจที่จะกลายเป็นที่รักของคนทั่วไปหลายสิบล้านคนทั่วโลกตราบจนวินาทีสุดท้ายของลมหายใจ


พระองค์สิ้นพระชนม์อย่างกะทันหันจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ค.ศ.1997 สิริพระชันษา 36 ปี 61 วัน สื่อทุกแขนงเกาะติดการรายงานข่าวการสิ้นพระชนม์ และรายงานภาพภาพประชาชนที่ออกมาแสดงความเศร้าเสียใจต่อการจากไปของพระองค์


 


ย้อนกลับไปเมื่อปี 1995



โดย Lady Dior มีที่มาจากการที่ไดอานา ,เจ้าหญิงแห่งเวลส์ เดินทางมาร่วมงานนิทรรศการ Cézanne Exhibition โดยสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งแห่งฝรั่งเศส แบร์นาแด็ต ชีรัก คู่สมรสของประธานาธิบดีฝรั่งเศสในขณะนั้น ได้ติดต่อ Dior แบรนด์แฟชั่นสุดหรูของฝรั่งเศส เพื่อจัดหาของขวัญที่ระลึกมอบให้แด่เจ้าหญิงไดอานาแห่งเวลส์


เจ้าหญิงไดอานา และแบร์นาแด็ต ชีรักสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของฝรั่งเศสในปี 1995



Dior จึงเกิดการครุ่นคิดตัดสินใจอย่างมากที่จะส่งของชิ้นนี้ให้เจ้าหญิงที่โด่งดังที่สุดในโลก และต่อมาได้ตัดสินใจส่งกระเป๋ารุ่นใหม่ที่ออกแบบเป็นพิเศษโดย John Galliano รุ่นที่ยังไม่ได้ออกจำหน่ายเพื่อให้แบร์นาแด็ตมอบแด่เจ้าหญิงไดอานา

กระเป๋าใบนั้นเป็นกระเป๋าหนังแกะสีดำ ใช้หนังมากถึง 130 ชิ้น ที่ถูกขัด ย้อมสี ตัด และเย็บด้วยมือเป็นทรวดทรงสี่เหลี่ยม และมีฝีเย็บแบบ Cannage มาพร้อมกับพวงกุญแจโลหะตัวอักษร D I O R ห่วงโซ่ทองเชื่อมตัวกระเป๋าทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าเข้ากับหูจับทรงโค้งมน และตัวอักษรสีทองที่ห้อยประดับอยู่นั้น ล้วนเป็นการรำลึกถึงความรักในสิ่งนำโชคของ Christian Dior กับอะไหล่เงินถึง 43 ชิ้น โดยใช้ช่างเย็บหนังยอดฝีมือถึง 7 คน ใช้เวลาถึง 8 ชั่วโมงในการประกอบชิ้นส่วนแต่ละชิ้นเข้าด้วยกัน !!


แต่เนื่องจากกระเป๋าใบนี้ยังไม่ได้จัดจำหน่าย จะส่งมอบกระเป๋าใบนี้ที่ไ่ม่มีชื่อรุ่นให้เจ้าหญิงแห่งเวลส์ก็คงไม่น่าดูชม จึงตั้งชื่อแบบไม่เป็นทางการว่า

"Chouchou" มีความหมายว่า ของที่รักของที่ชอบ



เนื่องจากพระองค์เป็นเสมือนผู้นำเทรนด์แฟชันในสมัยนั้น จึงไม่แปลกที่จะมีของใช้มากมายทั้งเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า แต่ก็เป็นที่ฮือฮากันที่ว่า พระองค์ทรงพอพระทัยและโปรดปรานกระเป๋าใบนี้มาก จนประชาชนต่างได้เห็นพระองค์หยิบกระเป๋า Chouchou ใบนี้ขึ้นมาใช้อยู่หลายต่อหลายครั้ง และด้วยความที่พระองค์ทรงเป็นแฟชั่นไอคอนของสาวๆ ทั่วโลก เลยยิ่งเท่ากับเป็นการจุดพลุแจ้งเกิดให้กระเป๋ารุ่นนี้ได้รับความนิยมในหมู่สาวๆ มากขึ้นเป็นเงาตามตัว


และยิ่งเป็นภาพที่ประทับใจยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อพระองค์ได้ปรากฏในภาพถ่ายที่กำลังโอบกอดเด็กๆในบ้านพักพิงที่เมืองเบอร์มิงแฮม ส่วนแขนอีกข้างกำลังคล้องหูกระเป๋า Chouchou จาก Dior



ครั้งหนึ่งที่กระเป๋า Chouchou กับเจ้าหญิงไดอาน่าสามารถสะกดสายตาของผู้คนทั่วโลกได้มากที่สุดคือเมื่อพระองค์จับคู่มันเข้ากับชุดสูทสีส้มของ Versace ขณะที่เธอไปเยือนเมืองลิเวอร์พูล ในปี ค.ศ.1995 และอีกครั้งในปี ค.ศ.1996 ณ งาน Met Gala




เรียกได้ว่ากระเป๋า Chouchou ของขวัญจากทางดิออร์ที่เจ้าหญิงไดอาน่าได้รับมาโดยไม่ตั้งใจ กลายเป็นไอเท็มที่อยู่เคียงข้างเธอมาโดยตลอด ผ่านช่วงเวลาสุข เศร้า และแตกสลาย อีกทั้งมันยังเป็นสัญลักษณ์ ที่ไม่ว่าตัวเธอจะตั้งใจหรือไม่ ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ากระเป๋าใบนี้ทำให้เธอดูมีอิสระจากกรอบจารีตของราชวงศ์


จนในปี 1996 Dior จึงตัดสินใจเปลี่ยนชื่อกระเป๋ารุ่นนี้ ว่า Lady Dior เพื่อเป็นเกียรติแด่เจ้าหญิงไดอานา สตรีผู้เป็นที่รักและผู้นำแฟชันที่ทั้งโลกจับตามองที่สุดในสมัยนั้น





ว่ากันว่า ณ ห้วงเวลานั้น กระเป๋ารุ่นนี้ทำยอดขายพุ่งทะยานถึง 200,000 ใบ ในระยะเวลาเพียง 2 ปีเท่านั้น!!! และกลายเป็น กระเป๋า Dior สุดคลาสสิก ที่ครองความนิยมจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปี กระเป๋ารุ่นนี้ก็ไม่เคยตกเทรนด์ กลับมีแต่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น อาจเป็นเพราะทางแบรนด์ออกคอลเล็คชั่นใหม่ที่สับเปลี่ยนรูปลักษณ์ ซึ่งมีการผลิตโดยใช้วัสดุหลากหลายชนิด ทั้งหนังแกะ หนังแก้ว หนังจระเข้ หนังงู ผ้าทวีต ผ้าซาติน ฯลฯ และลวดลาย ที่แตกต่างกันไปตามแต่ละ Season จนไม่น่าเบื่อ เลยทำให้กระเป๋ารุ่นนี้ยังคงดูสดใหม่อยู่เสมอ


ลวดลายของกระเป๋า Lady Dior บางส่วน



 

หากมองมาที่เรื่องของประวัติศาสตร์ของพระองค์นอกเหนือจากกระเป๋า หลายๆคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมสุภาพสตรีหมายเลข 1 ของฝรั่งเศส ถึงไม่ส่งมอบกระเป๋าชาแนลแบรนด์คู่แข่งที่เป็นแบรนด์สุดหรูไม่แพ้กันให้กับเจ้าหญิงแทน เหตุผลก็คือความขัดแย้งระหว่างเจ้าหญิงไดอานากับคามิลลา คนรักของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ที่เป็นสาเหตุให้ความสัมพันธ์ของเจ้าหญิงไดอานากับเจ้าชายชาร์ลส์ระหองระแหงกัน จนในครั้งหนึ่ง เจ้าหญิงทรงปรี๊ดแตกเมื่อได้พบเห็นเจ้าฟ้าชายทรงใช้กระดุมข้อมือเสื้อที่คามิลลามอบเป็นของขวัญ ความบาดตาน่าสะเทือนพระทัยอยู่ในข้อที่ว่า กระดุมแสนหรูนี้ประดับด้วยอักษร C สองตัวไขว้กันแบบโลโก้ของแบรนด์ชาแนล ทั้งนี้ทรงเชื่อว่าสัญลักษณ์ CC ของชาแนลก็เปรียบเสมือนตัวย่อจาก Charles และ Camilla จนแตกหักในที่สุด ทำให้เจ้าหญิงไดอาน่าเลิกใช้แบรนด์ชาแนลไปเลย ส่งผลให้แบรนด์ Dior ได้รับกระแสตอบรับที่เยี่ยมมากยิ่งขึ้นไปอีก

คำว่าสง่างามเหนือกาลเวลาคงจะเป็นคำอธิบายสรุปความกระเป๋า Lady Dior ได้เป็นอย่างดี ในโลกของแฟชั่นที่ทุกอย่างหมุนเร็วไปตามกระแสของสังคมและการเปลี่ยนแปลง แต่ในระยะเวลาเกือบ 30 ปีนับจากวันที่กระเป๋า Lady Dior ได้ปรากฏสู่สายตาชาวโลกมาจนถึงปัจจุบันนี้ มันยังคงเป็นไอเทมที่ยืนหยัดและยังเป็นที่นิยมในหมู่ผู้รักแฟชั่นอยู่เสมอ และเมื่อเราเห็นกระเป๋านี้เมื่อไหร่ นอกจากเราจะคิดถึงคริสเตียน ดิออร์ ผู้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างกระเป๋าใบนี้แล้ว มันยังย้ำเตือนถึงภาพของ ไดอาน่า เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ที่คนทั้งโลกต่างตกหลุมรักและคิดถึงพระองค์ตราบจนทุกวันนี้



 


Komentáre


  • Youtube
  • Instagram
  • Facebook
  • Chat
  • Call
bottom of page